เมนู

2. เสตเกตุชาดก



ว่าด้วยคนที่ได้ชื่อว่าเป็นทิศ



[837] พ่อเอ๋ย พ่ออย่าโกรธเลย เพราะความ
ความโกรธไม่ดี ทิศที่เจ้ายังไม่เห็นและยังไม่
ได้ยินมีเป็นอันมา พ่อเสตเกตุเอ๋ย มารดา
บิดาก็เป็นทิศ ๆ หนึ่ง บัณฑิตทั้งหลายสรร-
เสริญอาจารย์ เรียกว่าเป็นทิศ ๆ หนึ่ง.
[838] คฤหัสถ์ทั้งหลายเป็นผู้ถวายข้าวน้ำและ
ผ้านุ่งห่ม ส่วนสมณะพราหณ์ทั้งหลาย เป็นผู้
เรียกร้อง บัณฑิตทั้งหลายเรียกสมณะและ
พราหมณ์แม้นั้นว่าเป็นทิศ ๆ หนึ่ง พ่อเสตเกตุ
เอ๋ย ทิศนี้เป็นยอดทิศ เพราะสัตว์ทั้งหลายผู้มี
ทุกข์ไปถึงแล้ว จะมีความสุข.
[839] ชฎิลเหล่าใด ผู้นุ่งหนังสัตว์ที่แข็งกระด้าง
มีฟันสกปรก มีรูปร่างเศร้าหมอง ร่ายมนต์อยู่
ชฎิลเหล่านั้น ดำรงอยู่ในความเพียรของมนุษย์
รู้โลกนี้แล้ว จะพ้นจากอบายหรือไม่หนอ ?

[840] ข้าแต่มหาราชเจ้า ผู้ใดเป็นพหูสูตคงแก่
เรียน แต่ทำบาปธรรมไว้ ไม่ประพฤติธรรมเลย
ผู้นั้นถึงจะมีเวทมนต์ตั้งพัน อาศัยเวทมนต์นั้น
แต่ไม่ถึงจรณะ ก็ไม่พ้นทุกข์.
[841] คนแม้มีเวทมนต์ตั้งพัน อาศัยเวทมนต์
นั้น แต่ยังไม่ถึงจรณะ ยังไม่พ้นทุกข์
อาตมาภาพเข้าใจว่า พระเวททั้งหลายเป็นสิ่ง
ที่ไร้ผล จรณะคือการสำรวมอย่างดีเท่านั้น
แหละ เป็นของจริง.
[842] พระเวทไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไม่มีผลเลย จรณะ
คือการสำรวมระวังเท่านั้น เป็นของจริงก็หา
มิได้ คนอาศัยพระเวทแล้ว ได้รับเกียรติก็มี
ผู้ฝึกตนแล้วด้วยจรณะ จะบรรลุความสงบได้.

จบ เสตเกตุชาดกที่ 2

อรรถกถาเสตเกตุชาดกที่ 2



พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันทรงปรารภ
ภิกษุผู้โกหก จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า มา ตาต กุชฺฌิ น หิ สาธุ